เผยข้อดีและข้อจำกัดของ ระบบ Face Recognition
ก่อนจะเริ่มใช้งานการยืนยันตัวตนด้วยระบบ Face Recognition ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ทั้งในด้านการรักษาความปลอดภัยให้กับสถานที่และทรัพย์สิน รวมถึงการใช้เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าออฟฟิศ สำนักงาน ไปจนถึงการยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันมือถือต่าง ๆ ซึ่งหากจะบอกว่าเทคโนโลยีระบบ Face Recognition ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบันอย่างมากก็คงไม่ผิดนัก ที่สำคัญระบบนี้ยังมาพร้อมกับข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน สำหรับใครที่อยากรู้ว่า ระบบ Face Recognition ที่ใช้สำหรับยืนยันตัวตนมีจุดเด่นในเรื่องใดบ้าง ต้องห้ามพลาดกับบทความนี้
ระบบ Face recognition คืออะไร?
ระบบ Face Recognition เป็นเทคโนโลยีพิสูจน์อัตลักษณ์ หรือที่เรียกว่า Biometrics ซึ่งจะตรวจจับส่วนต่าง ๆ ของใบหน้ารวมถึงดวงตาเพื่อพิสูจน์ว่าตรงกับฐานข้อมูลที่มีอยู่หรือไม่ โดยการทำงานของ Face Recognition โดยจะเริ่มจากการเรียนรู้และจดจำใบหน้าของบุคคล จากนั้นจะจัดเก็บข้อมูลเหล่านั้นเอาไว้ในฐานข้อมูล แล้วจะนำมาใช้เพื่อพิสูจน์ตัวตนด้วยการตรวจจับ โดยจะทำการประมวลผลใบหน้าในขณะนั้น เพื่อเปรียบเทียบความเหมือนของอัตลักษณ์บนใบหน้าในฐานข้อมูลว่าตรงกันหรือไม่
โดยระบบ Face Recognition นั้น ได้ถูกนำมาพัฒนาต่อยอดโดยการนำ AI หรือ Artificial Intelligence เข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานเพื่อให้เกิดความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของระบบ Face recognition
มีความละเอียด และแม่นยำสูง
Face Recognition มีข้อดีที่โดดเด่นคือสามารถประมวลผลใบหน้าได้อย่างละเอียด และแม่นยำ เนื่องจากสามารถตรวจจับอัตลักษณ์บนใบหน้าได้มากถึง 30,000 จุด ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถแยกแยะ และยืนยันตัวบุคคลแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะหน้าตาที่คล้ายคลึงกันเท่าไหร่ก็ตาม
มีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้รหัสผ่าน หรือลายนิ้วมือ
ระบบ Face Recognition เป็นระบบยืนยันตัวตนที่มีความปลอดภัยสูงกว่าการใช้รหัสผ่านหรือแบบใช้ลายนิ้วมือ เพราะรหัสผ่านนั้นสามารถถูกเดา ถูกแฮ็ก หรือถูกส่งต่อได้ง่าย นอกจากนี้การยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือยังมีข้อจำกัดในเรื่องของการถูกปลอมแปลงได้ง่ายอีกด้วย อีกทั้งลายนิ้วมือยังมีรูปแบบและรายละเอียดที่น้อยกว่าใบหน้าของคน จึงอาจมีคนที่มีลายนิ้วมือซ้ำกันได้ ทำให้เทียบไม่ได้กับเทคโนโลยี Face Recognition ในด้านของความละเอียดกับการตรวจสอบอัตลักษณ์ได้
ตรวจจับการเคลื่อนไหว และการมีชีวิตได้
ระบบ Face Recognition มีการเพิ่มเทคโนโลยี Liveliness Detection หรือการตรวจจับการมีชีวิตเข้ามาช่วยป้องกันการปลอมแปลงตัวตนด้วยภาพถ่าย หรืออุปกรณ์ปลอมตัวอื่น ๆ ทำให้ระบบยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าจะไม่โดนหลอกโดยภาพถ่ายความละเอียดสูงหรือหน้ากาก
รักษาความปลอดภัยได้ดี
ด้วยความละเอียดและแม่นยำในการพิสูจน์อัตลักษณ์ และคุณสมบัติในการตรวจจับการมีชีวิต และการเคลื่อนไหว ทำให้ระบบ Face Recognition มีความปลอดภัยและสามารถปกป้องข้อมูล และทรัพย์สินต่าง ๆ ได้ และช่วยลดโอกาสในการปลอมแปลงตัวตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อจำกัดของระบบ Face recognition
จำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ดีในการจัดการและจัดเก็บข้อมูล
เนื่องจากระบบ Face Recognition นั้นเป็นเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อน ทำให้จำเป็นต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ดี และมีประสิทธิภาพสูงในการดูแลและจัดการกับระบบ อีกทั้งยังต้องใช้ความจุจำนวนมากในการจัดเก็บข้อมูลมากมายโดยเฉพาะข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล ที่ในข้อมูลหนึ่งชุดจะมีรายละเอียดอัตลักษณ์ได้มากถึง 30,000 ข้อมูลเลยทีเดียว
อาจมีค่าใช้จ่ายสูง
แน่นอนว่านวัตกรรมที่ทั้งทันสมัย มีประสิทธิภาพ รวมถึงมีละเอียดที่แม่นยำสูงย่อมต้องมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการใช้งานระบบยืนยันตัวตนในแบบอื่น ๆ ที่มีความปลอดภัยน้อยกว่า อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์ การดูแลระบบ และการซ่อมบำรุงอีกด้วย
หากใบหน้าหรือดวงตามีการเปลี่ยนแปลงจะไม่สามารถใช้งานได้
อีกหนึ่งข้อจำกัดของระบบ Face Recognition นั้นสืบเนื่องมาจากความละเอียดและแม่นยำของระบบ เนื่องจากความแม่นยำในการตรวจสอบอัตลักษณ์ที่สูงมาก ทำให้เมื่อใบหน้าของบุคคลมีการเปลี่ยนแปลงจากอุบัติเหตุ ศัลยกรรม หรือแม้แต่การใส่คอนแท็กต์เลนส์ที่มีสีหรือลวดลายที่แปลกไป อาจทำให้ไม่สามารถใช้งานระบบ Face Recognition ได้
เราจะเห็นได้ว่าแม้ว่าระบบ Face Recognition ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างเช่นกัน เพราะฉะนั้น หากคุณต้องการจะนำเอาระบบ Face Recognition ไปใช้ อย่าลืมนึกถึงข้อดี และข้อจำกัดของระบบนี้ว่าเหมาะสมกับการใช้งานในด้านใดบ้าง
หากผู้กระกอบการท่านใดสนใจระบบการทำงานของ ระบบ Face Recognition ติดต่อเราได้ ท่า Easetrack พร้อมให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาให้กับท่านได้
ขอบคุณที่มา : aigencorp