ในโลกแห่งการทำงานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แนวคิดที่ได้รับมาจากอดีตสิ่งที่เคยกำหนดชีวิตการทำงานของเรากำลังจะสูญหายไปในประวัติศาสตร์ แนวคิดเดิม ๆ อย่างการทำงานเก้าโมงเลิกห้าโมง หรือการทำงานตลอดชีวิตจะค่อย ๆ ถูกลดบทบาทไป
เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางสังคม เช่น ประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้น และรวมถึงการตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการปฏิบัติงาน ก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน
ปี 2024 แนวโน้มเหล่านี้จะยังคงเปลี่ยนรูปแบบชีวิตการทำงานของเราอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกคน ไม่ใช่แค่ในอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงเท่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนี้ให้ได้
8 เทรนด์ที่องค์กรและพนักงานต้องเตรียมตัวพร้อม ในปี 2024
1. การใช้ General AI
ณ ตอนนี้เครื่องมือ AI จะแพร่หลายในทุกสายงานและประสิทธิภาพสูงขึ้น ที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์ อาทิ รูปภาพ วีดิโอ เพลง ฯลฯ และกลายเป็นเทรนด์หลักของเทคโนโลยีในยุคนี้ แต่การทำความเข้าใจข้อจำกัดของเครื่องมือเหล่านั้นจะเป็นสิ่งสำคัญ การใช้ประโยชน์ของ AI ร่วมกับความสามารถของมนุษย์เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ เพราะ “AI ไม่ได้มาแทนที่คน แต่คนที่ไม่เรียนรู้เกี่ยวกับ AI จะถูกแทนที่”
2. แนวทางการทำงานอย่างยั่งยืน
การเปลี่ยนแปลงแนวทางการทำงานโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้ซํ้า การลดขยะ และการรีไซเคิล ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คนทำงานทุกคนจะต้องเรียนรู้ และปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเป็นหลัก (Data-driven decision-making) การตระหนักถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cybersecurity awareness) พัฒนาสติปัญญาทางอารมณ์และความเห็นอกเห็นใจ (Emotional intelligence and empathy) รวมถึงปรับเปลี่ยนวิธีคิดเพื่อทำงานแบบ Remote work ให้มีประสิทธิภาพ
3. ทักษะแห่งอนาคต
คนทำงานทุกคนจะต้องเรียนรู้ และปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูล ความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งเป็นทักษะที่เทคโนโลยีไม่มี และการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานระยะไกล (Remote Work)
4. ประสบการณ์ของพนักงาน
ในโลกปัจจุบัน องค์กรตระหนักดีว่าการสร้างประสบการณ์ที่ดีของพนักงานมีความสำคัญพอ ๆ กับการมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า นอกเหนือจากเงินเดือนที่เหมาะสมแล้ว บริษัทต้องมุ่งเน้นไปที่ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน สุขภาพและการเติบโต
5. การเปลี่ยนแปลงด้านประชากรศาสตร์
จากปัญหาประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้น การย้ายถิ่นฐาน ทำให้องค์กรต่าง ๆ ตระหนักถึงคุณค่าความหลากหลาย ทั้งอายุ เพศ เชื้อชาติ คาดการณ์ว่าในปี 2024 ช่องว่างการจ้างงานและลำดับชั้นแบบเดิม ๆ กำลังถูกสั่นคลอนลงไป
6. การใช้ระบบดิจิทัลในการทำงาน
ข้อมูลส่งผลกระทบต่อชีวิตการทำงานของเราในทุกด้าน ตั้งแต่การประเมินประสิทธิภาพการทำงานไปจนถึงข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจ จึงต้องมีทักษะการจัดการข้อมูลขั้นพื้นฐาน เรียนรู้การใช้งานเครื่องมือหรือระบบ มองหาโอกาสที่จะใช้งานในอนาคต
7. การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด
การเรียนรู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด (Lifelong Learning) ธุรกิจจะต้องให้แรงงานเข้าร่วมการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องเพื่ออัปเดตทักษะให้ทันสมัย เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Data และ AI คนที่พร้อมสำหรับการเรียนรู้ และลงมือเรียนอย่างจริงจังจะคว้าโอกาสดีๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ในปัจจุบันเราสามารถเรียนรู้ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การเรียนแบบออนไลน์ ที่เข้าถึงความรู้ได้ง่ายกว่าคนในยุคก่อน การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจำเป็นกับทุกคน เพื่อรักษาทักษะให้ทันสมัยอยู่เสมอ รวมถึงเรียนแนวทางเทคโนโลยีที่เกิดใหม่เช่น AI
8. สถานที่ทำงานแบบกระจาย
ในปี 2024 การทำงานแบบ hybrid จะมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผสมผสานการทำงานแบบดั่งเดิมที่ต้องมาทำงานในออฟฟิศร่วมกับความยืดหยุ่นในการทำงานแบบ remote ส่งเสริมกระจายอำนาจในการทำงานและเพิ่มความเป็นสากลให้กับบริษัท
โดยสรุปแล้วการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์การทำงานเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ องค์กรและพนักงานจึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อให้สามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จในโลกการทำงานยุคใหม่
นอกจากการเตรียมความพร้อมด้านทักษะและความสามารถแล้ว องค์กรและพนักงานควรให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมด้าน mindset อีกด้วย อาทิ การยอมรับการเปลี่ยนแปลง และพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะการเปลี่ยนแปลงของโลกการทำงานนั้นรวดเร็ว และคาดเดาได้ยาก
Source: forbes
Photo on Unsplash